สธ.หนุนองค์กรดูแลคนทำงาน ลดเจ็บป่วย/เสียชีวิตจาก 4 โรคหลัก

พบวัยทำงาน ป่วยเบาหวาน-ความดัน-อ้วน เพิ่มขึ้น รวมทั้งเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจาก 4 กลุ่มโรคหลัก ส่งผลค่ารักษาพยาบาลพุ่ง 1.3 แสนล้านบาท/ปี หรือคิดเป็น 70% ของงบค่ารักษาพยาบาล สธ.ตั้งเป้า ปี 2568 ลดการบริโภคน้ำตาล 30% โซเดียม 70% เน้นที่ทำงานหนุนคนเริ่มป่วยเข้าระบบบริการแต่เนิ่นๆ รวมทั้งส่งเสริมการพบแพทย์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ในการแถลงข่าวความร่วมมือสนับสนุนนโยบายองค์กรเพื่อสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรคไม่ติดต่อ ตามแนวทางคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข ที่กระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เป็น 1 ใน 6 ยุทธศาสตร์ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาล ที่มีเป้าหมายสำคัญคือการพัฒนาคนในทุกมิติและทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง มีคุณภาพ ซึ่งต้องเริ่มจากการมีสุขภาวะที่ดีก่อน แต่ข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ พบว่าคนช่วงอายุ 30-69 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงวัยทำงานที่ควรจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ กลับเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากโรคไม่ติดต่อ 4 กลุ่มโรคหลัก คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง […]

สธ.จับมือ สปสช.เพิ่มสิทธิประโยชน์หญิงตั้งครรภ์และคู่

ปรับสิทธิประโยชน์ บัตรทอง จากฝากครรภ์ฟรี 5 ครั้ง เป็นไม่จำกัดจำนวนครั้ง แต่ถ้าเกิน 8 ครั้ง ต้องมีใบนัดจากแพทย์ พร้อมเพิ่มสิทธิให้สามี/คู่ ตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิส และโรคธาลัสซีเมีย เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากสามีสู่หญิงตั้งครรภ์ นายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลัง เป็นประธานการแถลงข่าว “การฝากครรภ์คุณภาพสำหรับประเทศไทย” ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ อาคาร 1 ชั้น 1 กรมอนามัย ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ประกาศนโยบาย “ฝากครรภ์คุณภาพ” เมื่อปี 2559 โดยให้หญิงตั้งครรภ์ที่มีความเสี่ยงต่ำมาฝากครรภ์อย่างน้อย 5 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเดียวกันองค์การอนามัยโลกได้ศึกษา พบว่าอัตราการเกิดไร้ชีพของทารกในกลุ่มประเทศแอฟริกาเพิ่มขึ้น เมื่อฝากครรภ์ 5 ครั้ง จึงได้ประกาศคำแนะนำเป็นฝากครรภ์ 8 ครั้ง สำหรับประเทศไทยพบว่า ระหว่างปี พ.ศ. 2560-2564 ผลลัพธ์ด้านสุขภาพแม่และเด็ก ได้แก่ อัตราส่วนการตายมารดา อัตราตายทารกแรกเกิดภายใน 28 […]

SC ตั้ง ศูนย์พักคอย Company isolation รองรับบุคลากร-ครอบครัว กลุ่มสีเขียว

SC Asset จัดตั้ง “SC Care Center” ศูนย์พักคอย Company Isolation รองรับบุคลากรกลุ่มสีเขียว ทางรอดวิถีใหม่ เพื่อร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 ศิริกุล เกรียงไกร รองหัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านทรัพยากรบุคคลและธุรการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สืบเนื่องจากปัจจุบันภาพรวมผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประสบปัญหาการรอเตียงเป็นจำนวนมาก บริษัทจึงมุ่งหวังเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดความสูญเสียในสังคม โดยได้จัดตั้ง SC Care Center เพื่อดูแล ‘บุคลากร’ หัวใจสำคัญและกลไกในการขับเคลื่อนองค์กร ควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ทั้งลูกค้า คู่ค้า และพาร์ตเนอร์ผู้รับเหมา” “SC Care Center” ศูนย์พักคอย Company Isolation ได้จัดตั้งตามมาตรฐานสุขอนามัย ณ บริเวณศูนย์ฝึกอบรม Able Academy ของบริษัทฯ เพื่อดูแลพนักงานและครอบครัว โดยจะรับดูแลผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียวที่มีอาการน้อยหรือไม่แสดงอาการ เพื่อลดการสัมผัสบุคคลในครอบครัวและผู้ใกล้ชิดให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อมากที่สุด โดยมีทีมแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลในคู่สัญญา ทำหน้าที่ติดตามอาการผู้ป่วยตลอด 24 […]

แอร์-พัดลม ใช้ถูกวิธี ลดความเสี่ยงโควิด-19

กรมควบคุมโรค แนะปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดประตู-หน้าต่าง ให้อากาศถ่ายเท ลดเชื้อโรคสะสม ไม่เปิดพัดลมจ่อที่หน้า เสี่ยงรับเชื้อโควิด-19 โดยตรงเพิ่มขึ้น บ้านปิดทึบควรหลีกเลี่ยงการใช้พัดลมเพดาน เหตุทำเชื้อโควิด-19 ฟุ้งกระจายได้ นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรคขอความร่วมมือประชาชนทั่วประเทศให้อยู่บ้านให้มากที่สุด เพื่อลดการสัมผัสและป้องกันการนำเชื้อไวรัสโควิด 19 เข้ามาในบ้าน โดยขอให้ทุกบ้านเปิดประตูหน้าต่าง เพื่อให้อากาศภายในบ้าน ภายในห้องพักมีการถ่ายเทหมุนเวียนอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเชื้อไวรัสสะสมภายในบ้าน พร้อมทั้งหมั่นเช็ดทำความสะอาดสิ่งของที่ใช้ร่วมกันบ่อย ๆ เช่น ราวบันไดบ้าน ลูกบิดประตู ที่ปิด-เปิดตู้เย็น เป็นต้น งดการร่วมวงทานข้าว หรืองดการสนทนาระหว่างทานข้าว ไม่ทำกิจกรรมสังสรรค์ร่วมกัน สมาชิกในบ้านทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาหากต้องอยู่ใกล้ชิดกัน เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ไม่ใช้ห้องน้ำต่อกัน ถ้าจำเป็นควรทิ้งระยะห่างกันประมาณ 15 นาที หรือทำความสะอาดก่อนใช้ ความร่วมมือของประชาชนภายในครอบครัวจะเป็นปัจจัยสำคัญ ส่งผลให้มาตรการที่ภาครัฐกำหนด ประสบผลสำเร็จสามารถควบคุมโรค กลับคืนสู่สถานการณ์ปกติได้โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บ้านเรือนส่วนใหญ่ของประชาชนจะใช้พัดลม และเครื่องปรับอากาศ โดยบ้านที่ใช้พัดลมตั้งพื้น หรือตั้งโต๊ะ กรมควบคุมโรคแนะนำให้เปิดโดยหันหน้าพัดลมออกไปทางประตูหรือหน้าบ้าน เพื่อให้อากาศภายในบ้านซึ่งเป็นพื้นที่ปิดทึบ มีการถ่ายเทอากาศเข้า-ออกได้ดีขึ้น เรื่องที่ประชาชนต้องพึงระวัง […]

จีนเตรียมประกาศแผน 10 ปี พัฒนาผู้หญิง-เด็ก

สำนักข่าวซินหัว รายงานผลการประชุมระดับผู้บริหารของคณะรัฐมนตรีจีน ซึ่งมีหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันพุธ (25 ส.ค.) ที่ผ่านมา ว่าได้มีการรับรองร่างแผนพัฒนาผู้หญิงในจีน (ค.ศ. 2021-2030) และร่างแผนพัฒนาเด็กในจีน (ค.ศ. 2021-2030) พร้อมระบุถึงความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงมาตรการสนับสนุนนโยบายลูกคนที่ 3 ที่ประชุมมีการระบุถึงบทบาทของรัฐในการคุ้มครองสิทธิที่เท่าเทียมแก่ผู้หญิงในด้านการศึกษา การจ้างงาน การเริ่มต้นธุรกิจ ตลอดจนการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการจัดการ ให้ค่าตอบแทนที่เท่าเทียมระหว่างชายและหญิงสำหรับงานที่มีคุณค่าเท่าเทียมกัน ขยายบริการสาธารณะที่สนับสนุนการพัฒนาครอบครัวและผู้หญิงอย่างครอบคลุม ปรับปรุงระบบประกันสังคมเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของผู้หญิง รวมทั้งปรับปรุงระบบกฎหมายที่ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของผู้หญิง ส่วนร่างแผนพัฒนาเด็ก ระบุถึงจำนวนประชากรเด็ก 250 ล้านคนในจีน รัฐจึงต้องให้ความสำคัญกับการคุ้มครองเด็กอย่างครอบคลุมรอบด้านมากขึ้น ทั้งในระดับครอบครัว โรงเรียน สังคม และอินเทอร์เน็ต โดยการลงทุนด้านการศึกษาภาคบังคับ นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมพัฒนาการรอบด้านของเด็ก ทั้งด้านพื้นฐานทางศีลธรรม ความสามารถทางปัญญาและร่างกาย การรับรู้ทางสุนทรียะ และทักษะในการทำงาน นอกจากนี้ แผนพัฒนาเด็กยังระบุถึงการปรับปรุงระบบบริการสุขภาพเด็ก รับรองความปลอดภัยของอาหารและผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก คุ้มครองสิทธิในการมีชีวิตรอด การพัฒนาความปลอดภัย และผลประโยชน์ของเด็กกำพร้า เด็กที่ถูกทอดทิ้ง เด็กพิการ และเด็กเร่ร่อน ตลอดจนการป้องกันและจัดการพฤติกรรมกลั่นแกล้งในโรงเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ร่างแผนทั้งสองฉบับยังระบุถึงการปรับปรุงมาตรการสนับสนุนการมีลูกคนที่ 3 การให้สวัสดิการการลาคลอด และเงินค่าคลอดบุตร […]

เตรียมชง ครม. ปรับมาตรการภาษี หนุน “เดย์แคร์” ในที่ทำงาน

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ครอบครัวแห่งชาติ (กยค.) โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่ประชุมหารือกันเรื่องการสร้างความเข้มแข็งแก่สถาบันครอบครัวภายใต้สถานการณ์โควิด-19 และหลังโควิด-19 และได้เห็นชอบข้อเสนอต่อการขับเคลื่อนมติสมัชชาครอบครัวระดับชาติ ประจำปี 2563 ประกอบด้วย 1) การจัดพื้นที่เรียนรู้สำหรับครอบครัว เช่น การบูรณาการความร่วมมือกับองค์กร เครือข่าย ชุมชน สถานประกอบการ สร้างแกนนำส่งเสริมความรู้สำหรับครอบครัว การส่งเสริมสื่อสร้างสรรค์สำหรับครอบครัวและควบคุมสื่อที่ไม่เหมาะสม 2) การจัดสวัสดิการครอบครัวในภาวะวิกฤตโควิด-19 เช่น การทบทวนหรือปรับปรุงระเบียบ หรือกำหนดมาตรการทางภาษีเพื่อแบ่งเบาภาระของสถานประกอบการที่มีศูนย์เด็กเล็ก พัฒนาระบบให้คำปรึกษาครอบครัว สร้างกระบวนการเรียนรู้ของครอบครัวในภาวะวิกฤต จัดสวัสดิการสำหรับการเลี้ยงดูเด็กเล็ก และที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา  3) การจัดการเชิงนโยบายด้านครอบครัว เช่น การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เอื้อต่อการสร้างครอบครัวคุณภาพ ทบทวนรูปแบบการจัดหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับบริบทความเปลี่ยนแปลง เช่น การจัดการศึกษาแบบ Home School การจัดทำหลักสูตรออนไลน์ โดยข้อเสนอดังกล่าวจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณามอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานต่อไป นอกจากนี้ คณะกรรมการฯ ยังได้เห็นชอบในร่างข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินงานป้องกันและแก้ปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และครอบครัว มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การช่วยเหลือและคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงภายใน 24 ชั่วโมง และปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างรอบด้าน โดยความร่วมมือประกอบด้วย 16 หน่วยงานภาครัฐ […]

พบกลุ่มวัยรุ่น ติดโควิดเพิ่มขึ้น แนะวิธีป้องกัน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กและวัยรุ่น 12-18 ปี เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 หลังพบแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมเผยคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยให้เด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคโควิด-19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือป่วยมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดป้องกันได้ นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มการติดเชื้อ ที่เพิ่มสูงขึ้น เฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ ​12​-18 ปี​ พบติดเชื้อรายใหม่​ในสัปดาห์​แรกเดือนสิงหาคม จำนวน​  7,787 คน​ และมีจำนวนการติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์ที่ 2 ​เพิ่มขึ้นเป็น 8,733 คน​ คิดเป็นร้อยละ 12 จากข้อมูลดังกล่าวกลุ่มวัยเรียนวัยรุ่น จึงเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งล่าสุดราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยมีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคโควิด-19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยยังไม่แนะนำสำหรับเด็กทั่วไป ที่แข็งแรงดีจนกว่าจะมีวัคซีนที่มากขึ้น แต่มุ่งเน้นกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีโรคประจําตัวที่มีความเสี่ยงของโรคโควิด-19 ที่รุนแรง ได้แก่ โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ […]

“นมแม่” ปกป้องทารกจากโควิด-19 ได้ดีที่สุด

เว็บไซต์ยูนิเซฟ ประเทศไทย เสนอบทความ “ยูนิเซฟชี้นมแม่ช่วยปกป้องทารกจากการติดเชื้อได้ดีที่สุดในช่วงการระบาดของโควิด-19” เนื่องในสัปดาห์นมแม่โลกซึ่งตรงกับวันที่ 1-7 สิงหาคมของทุกปี โดยได้แนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง พร้อมรักษาสุขอนามัยขณะให้นมลูกท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยน้ำนมแม่จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ทารกแข็งแรงและช่วยปกป้องลูกน้อยจากการติดเชื้อและการเจ็บป่วย เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานยืนยันว่า โควิด-19 สามารถติดต่อผ่านน้ำนมแม่ได้ องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟจึงแนะนำให้แม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างต่อเนื่อง โดยสามารถให้นมจากเต้า และโอบกอดแนบเนื้อได้ แม้ว่าแม่จะติดเชื้อโควิด-19 หรือมีความเสี่ยงสูงก็ตาม อย่างไรก็ดี แม่ควรรักษาสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด เช่น ใส่หน้ากากอนามัยขณะให้นมลูก ล้างมือด้วยสบู่ก่อนและหลังสัมผัสลูก ตลอดจนหมั่นทำความสะอาดพื้นผิวที่แม่สัมผัสบ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ การศึกษาต่าง ๆ พบว่า ประโยชน์ของนมแม่มีมากกว่าความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไปสู่ลูก อีกทั้งแอนติบอดี้ในนมแม่ยังอาจช่วยต่อสู้กับการติดเชื้อหากทารกได้รับเชื้อโควิด-19 นางคยองซัน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า  “การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการช่วยให้ทารกเติบโตอย่างแข็งแรงโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 น้ำนมแม่เปรียบเสมือนวัคซีนหยดแรกสำหรับทารก เพราะเปี่ยมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ แอนติบอดี้ ฮอร์โมน และสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของทารกและป้องกันการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ดี” การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็กทั้งในช่วงแรกเกิดไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ การศึกษาต่าง ๆ พบว่าเด็กที่ได้กินนมแม่มักจะมีความเสี่ยงในการเจ็บป่วยน้อยกว่า อีกทั้งมีแนวโน้มที่จะมีไอคิวสูงกว่า มีการศึกษาที่สูงกว่าและทำงานที่ได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับเด็กที่ไม่ได้กินนมแม่ นอกจากนี้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ยังช่วยเสริมสร้างสายใยรักและผูกพันระหว่างแม่กับลูก อีกทั้งลดความเสี่ยงของแม่ในการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวานชนิดที่สอง โรคหัวใจและหลอดเลือด มะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่อีกด้วย […]