ราชวิทยาลัยกุมารฯ แนะนำการฉีดวัคซีน สำหรับเด็กและวัยรุ่น

ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกคำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด 19 สำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป (ฉบับที่ 2) ระบุวัคซีนไฟเซอร์ปลอดภัยสำหรับเด็กและวัยรุ่นอายุ 12 ปีขึ้นไป อายุ 16-18 ปี ฉีดได้ทุกราย ส่วนเด็ก 12-16 ปี เฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคเรื้อรัง ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ได้มีมติเห็นชอบการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ที่อยู่ในกลุ่มผู้มีภาวะเสี่ยงและผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 โรคเรื้อรัง ด้วยความยินยอมของผู้ปกครอง  โดยในส่วนของกรุงเทพมหานคร มีแผนจัดฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายในโรงเรียนทุกสังกัด  ซึ่งจะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน เป็นต้นไป

พบกลุ่มวัยรุ่น ติดโควิดเพิ่มขึ้น แนะวิธีป้องกัน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ห่วงเด็กและวัยรุ่น 12-18 ปี เสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 หลังพบแนวโน้มเพิ่มขึ้น พร้อมเผยคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยให้เด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคโควิด-19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือป่วยมีโรคประจำตัว ฉีดวัคซีนโควิดป้องกันได้ นายแพทย์สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ยังคงพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มการติดเชื้อ ที่เพิ่มสูงขึ้น เฉพาะกลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ ​12​-18 ปี​ พบติดเชื้อรายใหม่​ในสัปดาห์​แรกเดือนสิงหาคม จำนวน​  7,787 คน​ และมีจำนวนการติดเชื้อรายใหม่ในสัปดาห์ที่ 2 ​เพิ่มขึ้นเป็น 8,733 คน​ คิดเป็นร้อยละ 12 จากข้อมูลดังกล่าวกลุ่มวัยเรียนวัยรุ่น จึงเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มมากขึ้น ซึ่งล่าสุดราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยมีคำแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่นอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดโรคโควิด-19 ในจังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยยังไม่แนะนำสำหรับเด็กทั่วไป ที่แข็งแรงดีจนกว่าจะมีวัคซีนที่มากขึ้น แต่มุ่งเน้นกลุ่มผู้ป่วยเด็กที่มีโรคประจําตัวที่มีความเสี่ยงของโรคโควิด-19 ที่รุนแรง ได้แก่ โรคอ้วน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งและภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ […]

ทำอย่างไร ถ้าลูกต้อง Home Isolation

ข้อมูลจากกรมควมคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 6 กรกฎาคม รายงานผู้ป่วยเด็กอายุน้อยกว่า 18 ปี ติดเชื้อทั้งหมด 32,829 ราย ส่งผลให้อัตราครองเตียงสูงขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง อาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล หรืออยู่ในโรงพยาบาลเพียงระยะสั้น ๆ แล้วไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้จนหายสนิท ผู้ป่วยโควิด-19 จะเริ่มแพร่เชื้อก่อนมีอาการประมาณ 2-3 วัน ไปจนถึงสิ้นสุดสัปดาห์แรกของการเจ็บป่วยนับจากมีอาการ  ผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการน้อยหรืออาการดีขึ้นแล้ว อาจยังมีเชื้อไวรัสที่ยังแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้เป็นระยะเวลาประมาณ 10 วัน หลังจากเริ่มป่วย ดังนั้น ผู้ป่วยที่ไม่ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจำเป็นต้องแยกตัวเองจากผู้อื่นขณะอยู่ที่บ้าน ผู้ที่มีอาการและตรวจพบเชื้อแล้ว หรือตรวจพบเชื้อแต่ไม่มีอาการให้แยกตัว 14 วันนับจากมีอาการ หรือตรวจพบเชื้อครั้งแรก กรณีที่ไม่ได้ตรวจหาเชื้อแต่มีความเสี่ยงสูง เช่น อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน แนะน าให้แยกตัวเองอยู่ที่บ้าน และปฏิบัติตัวเสมือนผู้ติดเชื้อ แนวทางการแยกตัวที่บ้าน Home Quarantine หมายถึง การแยกผู้สงสัยว่ามีการสัมผัสเชื้อไวรัส แต่ยังไม่มีอาการ ไม่เคยได้รับวัคซีน ให้แยกกักตัวที่บ้าน 14 วัน […]

วิธีลดความเสี่ยงโควิด เมื่อไม่มีวัคซีนสำหรับเด็ก

กรมอนามัย ระบุการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็กที่มีโรคประจำตัว ต้องเป็นวัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองให้ใช้ในเด็ก สำหรับเด็กทั่วไปที่แข็งแรงดี ยังไม่แนะนำวัคซีนโควิด-19 พร้อมย้ำพ่อแม่ ผู้ปกครอง คุมเข้มตนเอง ลดเสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 ไปสู่ลูก นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มเด็กปฐมวัย อายุต่ำกว่า 6 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2563 – 25 กรกฎาคม 2564 พบมี เด็กต่ำกว่า 6 ปีติดเชื้อ 13,444 ราย มีอาการรุนแรง 791 ราย และเสียชีวิต 2 ราย เป็นเด็กวัย 1 เดือน และ 2 เดือน โดยพบว่าเด็กทั้ง 2 รายที่เสียชีวิต เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดชนิดรุนแรง และสัมผัสบุคคลที่เป็นโรคในครอบครัว และเริ่มมีความเสี่ยงที่โรคจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย […]